รีวิวหนัง Haunted Mansion บ้านชวนเฮี้ยน ผีชวนฮา ภาพยนตร์ผจญภัยสุดลึกลับเคล้าไปด้วยเสียงหัวเราะเรื่องนี้ ได้รับแรงบันดาลใจจากเครื่องเล่นในสวนสนุกสุดคลาสสิคของดิสนีย์
เมื่อคุณหมอและลูกชายวัยเก้าขวบของเธอกำลังจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยการย้ายเข้าไปในบ้านราคาดีแถบนิวออร์ลีนส์ แต่แล้วพวกเขาก็ค้นพบว่าบ้านหลังนี้มีอะไรมากกว่าที่พวกเขาคิด
เมื่อจนตรอกพวกเขาจึงต้องหาทางเอาตัวรอดด้วยการติดต่อขอความช่วยเหลือไปยังนักบวชที่ดันต้องไปขอความช่วยเหลืออีกทอดจากแม่หม้ายอดีตนักวิทยศาสตร์ที่สถาปนาตัวเองเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านวิญญาณ นักพลังจิตลูกเสี้ยวฝรั่งเศส และ นักประวัติศาสตร์จอมฉุนเฉียว”
เรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร เชิญติดตามได้ที่รีวิวของเราข่างล่างนี้เลยค่ะ
การผจญภัยสุดสยองปนฮาครั้งใหม่จากดีสนีย์
รีวิวหนัง Haunted Mansion กว่าจะมาเป็นคฤหาสน์ผีสิง
Haunted Mansion เรื่องย่อ เป็นภาพยนตร์แนวสยองขวัญเป็นเรื่องเล่าของแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ต้องการเริ่มต้นใช้ชีวิตใหม่ และได้ซื้อคฤหาสน์ที่สวยมาก ได้ในราคาที่ถูกมาก แต่คฤหาสน์หลังนี้ได้มีบางสิ่งบางอย่างที่รอสองคนแม่ลูกอยู่
และพวกเขาทั้งสองคนก็ได้ย้ายเข้ามาอยู่ที่คฤหาสน์ใหม่หลังนี้ ต่อให้คฤหาสน์นี้ไม่มีคนอยู่มานาน เหมือนว่า แก๊บบี้ ได้รับรู้ถึงความอบอุ่นในบ้านตลอดเวลา
แต่การที่สองแม่ลูกก็ย้ายเข้ามาอยู่ได้ไม่นาน ก็เจอเรื่องแปลกๆ ได้เจอกับผีสุดเฮี้ยนในคฤหาสน์ตามหลอก จนพวกเขาอยู่ไม่ได้
และได้ไปขอความช่วยเหลือนักบวช แต่การปราบผีในครั้งนี้ไม่ได้มาเพียงแค่คนเดียว บทหลวง พาร่างทรง นักวิทยาศาสตร์ และ ประวัติศาสตร์
เปลี่ยนจากการไล่ผีเป็นการผจญภัยสุดน่าตื่นเต้น และนำทีมความเฮี้ยนในคฤหาสน์หลังนี้นำทีมของผีที่สุดหลอนคือ ผีกล่องหมวกทรงสูง และ ผีมาดาม
เรามาลุ้นช่วยกันว่าพวกเขาจะสามารถจัดการผีเฮี้ยนได้ไหม สำหรับภาพยนตร์เรื่อง Haunted Mansion ที่กำกับการแสดงโดย จัสติน ไซเมน
รับประกันได้จากผลงานหนังสยองขวัญที่ตลก Bad Hair และภาพยนตร์เรื่อง Dear White People และนักแสดงที่มาเพิ่มสีสันให้ดูสุดหลอนในเรื่องนี้
เป็นภาพยนตร์ที่พลาดไม่ได้ รับรองได้เลยว่าความเฮี้ยนของผีในคฤหาสน์หลังนี้ จะทำให้ท่านมีทั้งความระทึกขวัญ ความฮาในทีเดียว
บ้านชวนเฮี้ยน ผีชวนฮา นักแสดงนำ
ลาคีธ สแตนฟิลด์ รับบทเป็น Ben มัคคุเทศก์ อาถรรพณ์
ทิฟฟานี่ แฮดดิช รับบทเป็น แฮเรียต นักพลังจิต
โอเวน วิลสัน รับบทเป็น เคนท์ นักบวช
แดนนี่ เดวีโต้ รับบทเป็น Bruce นักประวัติศาสตร์
โรซาริโอ ดอว์สัน รับบทเป็น แก๊บบี้
Chase W. Dillon รับบทเป็นTravis ลูกชายของ Gabbie
เจมี ลี เคอร์ติส รับบทเป็น มาดามลีโอตา
จาเร็ด เลโต้ รับบทเป็น Hatbox Ghost
วิโนน่า ไรเดอร์ รับบทเป็น แพท มัคคุเทศก์นิวออร์ลีนส์
เรื่องย่อ
Haunted Mansion เรื่อวย่อ เรื่องราวของหนังเริ่มต้นจาก แกบบี (โรซาริโอ ดอว์สัน – Rosario Dawson) คุณแม่เลี้ยงเดี่ยว และ ทราวิส (เชส ดับเบิลยู ดิลลอน – Chase W. Dillon) ลูกชายตัวน้อย
ที่ตัดสินใจซื้อคฤหาสน์ราคาดีที่ตั้งอยู่ในรัฐนิวออลีนส์ เพื่อหวังจะเปลี่ยนให้เป็นบ้านพักแนวโฮมสเตย์ แต่กลับพบว่า คฤหาสน์หลังนี้ถูกครอบงำไปด้วยวิญญาณร้าย 999 ตนที่สิงอยู่ในคฤหาสน์หลังนี้
แถมไม่ใช่ว่าจะหนีไปได้โดยง่าย เธอจึงได้ขอความช่วยเหลือจาก บาทหลวงเคนต์ (โอเวน วิลสัน – Owen Wilson) เพื่อมาช่วยกำจัดผีออกไปให้สิ้นซาก แต่ไม่ใช่แค่นั้น
เคนต์ไปขอความช่วยเหลือจาก เบน แมทเธียส (ลาคีธ สแตนฟิลด์ – LaKeith Stanfield) อดีตนักวิทยาศาสตร์ผู้คิดค้นกล้องถ่ายวิญญาณ รวมทั้ง แฮร์เรียต (ทิฟฟานี แฮดดิช – Tiffany Haddish) คนทรงเจ้า, บรูซ เดวิส (แดนนี เดอวีโต – Danny DeVito)
นักประวัติศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญเรื่องโบราณ พวกเขาต้องช่วยกันปราบผี โดยมี มาดามลีโอตา (เจมี ลี เคอร์ติส – Jamie Lee Curtis) ผียิปซีในลูกแก้วทำนาย
ที่ต้องร่วมมือกันกำจัดเหล่าวิญญาณ รวมทั้ง ผีแฮตบ็อกซ์ (จาเรด เลโท – Jared Leto) ต้นเหตุของเหล่าวิญญาณทั้งหมด ก่อนที่จะมีวิญญาณดวงใหม่จะบังเกิดขึ้น
ความแตกต่างที่ชัดเจนของเวอร์ชันก่อนหน้ากับเวอร์ชันใหม่นี้ก็คือ การที่ตัวหนังมีความแฟนเซอร์วิสอย่างชัดเจนครับ จากความพยายามชูจุดขายจุดเด่น และบรรดา Easter Eggs
รวมไปถึงไอเทมต่าง ๆ ที่มีอยู่ในเครื่องเล่นคฤหาสน์ผีสิง ที่ถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นสิ่งที่มีผีสิงจริง ๆ ซึ่งสิ่งที่ต้องชมก็คือแทนที่จะหันไปใช้การทำ CG ล้วน ๆ ตัวหนังกลับใช้วิธีการถ่ายทำในสตูดิโอเป็นหลัก ด้วยการสร้างคฤหาสน์ขึ้นมาใหม่โดยอ้างอิงจากเครื่องเล่น
และกิมมิกที่มีอยู่ในเครื่องเล่นจริง ผสมกับงาน CG บางส่วน รวมทั้งการแต่งหน้าของบรรดาผี ๆ ที่เกิดจากการแต่งหน้าเอฟเฟกต์จริง คือแน่นอนแหละว่ามันอาจจะไม่ได้ชวนให้ดูสมจริงไปทั้งหมด เพราะ CG บางจุดก็ยังไม่เนียนบ้าง แต่ก็ถือว่าทำออกมาได้บรรยากาศที่ยังมีความสมจริงอยู่
ความน่าสนใจของภาพยนตร์
อีกความชอบของหนังก็คือ ความไม่ได้พยายามให้หนังมีแต่มุกฮาเบาสมองอย่างเดียวครับ ตัวหนังพยายามวางเนื้อเรื่องให้มีความผสมผสานหลากหลายแนว ทั้งความเป็นหนังครอบครัวที่สะท้อนผ่านปมดราม่าของบรรดาตัวละคร
โดยเฉพาะการที่ตัวละครหลัก ๆ ล้วนมีปมดราม่าเป็นของตัวเอง ซึ่งตอนแรก ผู้เขียนดูและคิดในใจว่า บทจะแอบยัดเยียดดราม่าเกินไปหรือเปล่า แต่พอเข้ามาเชื่อมโยงถึงเนื้อเรื่องของบรรดาผีที่แฮตบ็อกซ์ต้องการ
ล้วนแล้วแต่มีความทุกข์เป็นของตัวเองเป็นการสอนเรื่องของการรับมือกับการถูกมองเป็นคนนอกในสายตาคนอื่น ๆ การรับมือกับความสูญเสียคนที่เรารัก รวมทั้งการพยายามมูฟออนจากอดีตได้ดี เอาจริงก็เชยแหละ
แต่ก็ยังถือว่าเป็นการผสมโทนหนังเบาสมอง เข้ากับปมดราม่า ผูกปมผสมเรื่องเข้ากับความเศร้าสร้อยของวิญญาณได้น่าสนใจทีเดียว
และแทนที่จะเป็นหนังผจญภัยในบ้านผีแบบดุ่ม ๆ เหมือนเวอร์ชัน 2003 ภาคนี้ตัวหนังก็เลยผูกเรื่องไม่ให้ขังอยู่แต่ในบ้านอย่างเดียว เราก็เลยจะเห็นบรรดาตัวละครออกไปพยายามค้นหาวิธีการปราบผี
ก็เลยทำให้ตัวหนังค่อนข้างมีโทนที่ออกมาร่วมสมัยกว่าอย่างเห็นได้ชัด มีการพยายามสอดแทรกกลิ่นอายแบบหนังสืบสวนสอบสวน ไขปริศนาลี้ลับหาต้นตอของบรรดาผี ๆ 999 ตน
มีการพยายามออกไปตามหาไอเทมลับบางอย่าง และผูกปมไม่ให้ตัวละครหนีออกไปจากบ้านได้โดยง่าย ก่อนจะค่อย ๆ แทรกความเป็นหนังแก๊งล่าท้าผีในแบบ ‘Ghostbusters’ ที่จริง ๆ แล้วก็ถือว่าทำออกมาได้น่าสนใจทีเดียว
แต่สิ่งที่มันเกิดขึ้นกับตัวหนังก็คือ ตัวหนังและวิธีการเล่าที่ยังคงหนีไม่พ้นความเป็นหนังสูตรสำเร็จตามสไตล์ Disney นี่แหละครับ ซึ่งมันก็ไม่ได้ผิดบาปอะไรหรอก
แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้จริง ๆ ว่ามันก็ยังเป็นหนัง Disney ที่ขาดความสดใหม่ ไม่อยากจะใช้คำว่ามันเป็นหนังขายเครื่องเล่นนะครับ เพราะอย่างที่ผู้เขียนบอกไปก็คือ ตัวบทก็ยังวางเอาไว้ได้สนุกครบครัน เป็นหนังสไตล์ครอบครัวที่มีทั้งความฮา ดราม่าซึ้ง ดูเพลิน ๆ
จุดเด่นและจุดด้อย
แต่สิ่งที่เป็นปัญหาร้ายแรงของหนังเรื่องนี้คือการขาดความแม่นยำของการเล่าเรื่องที่หลุดตั้งแต่การวางโครงเรื่อง การดำเนินเรื่อง และการตัดต่อที่ยังขาดความไหลลื่นตั้งแต่ซีนแรก ๆ เลยด้วยซ้ำ ทำให้ตัวหนังเกิดอาการเหมือนจะลุ้นแต่ก็ขาดห้วง
เหมือนจะฮาแต่ก็ไม่สุด เหมือนจะซึ้งแต่ก็ไม่ทันเรียกน้ำตาไปอีก อารมณ์ของหนังที่ได้เลยออกมาไม่ลื่นไหลเท่าที่ควร
ทำให้ความยาว 2 ชั่วโมงกลายเป็นความยาวที่ดูเกินความจำเป็นไปสักหน่อย รวมทั้งความไม่สมเหตุสมผลบางอย่างที่แม้ในหนังจะอธิบายเอาไว้พอสมควร แต่มันก็ยังไม่ค่อยชวนให้ซื้ออยู่ดี
อีกจุดที่ผู้เขียนรู้สึกส่วนตัวก็คือ ผีแฮตบ็อกซ์ ที่พากย์เสียงโดยเฮีย จาเรด เลโท ที่แม้ว่าจะถูกวางตัวให้เป็นผีวายร้ายตัวเป้งประจำเรื่อง แต่กลับเป็นตัวร้ายที่ดูจะมาเร็วไปเร็วโดยที่ไม่ได้มีกิมมิกหรือความน่ากลัวใด ๆ ทั้งสิ้นครับ
ถ้าเทียบกับเวอร์ชันแรก ตัวร้ายของเรื่อง (ขอไม่สปอยล์ว่าเป็นตัวละครไหนนะครับ) กลับดูมีเหตุมีผลเบื้องลึก และดูน่ากลัวกว่าผีแฮตบ็อกซ์ ผีซีจีที่กว่าจะโผล่มาก็ตอนท้ายแล้วเสียอีก ถ้าให้แฮตบ็อกซ์มีบทบาท
ที่มาที่ไปเอาไว้ตั้งแต่แรก ๆ วางคาแรกเตอร์ให้คนดูรู้สึกกลัว หรือเป็นผีที่ปราบได้ยาก น่าจะมีความชวนลุ้นและน่าติดตามมากกว่านี้
รีวิวหนัง Haunted Mansion บทสรุป
Haunted Mansion บทสรุป เป็นภาพยนตร์ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเครื่องเล่นสวนสนุกคลาสสิคของดิสนีย์แลนด์เป็นสถานที่สุดฮิตที่ดังไปทั่วโลก
ที่ได้เคยถูกทำเป็นหนังมาแล้วครั้งเมื่อปี 2003 และได้รับการตอบรับยังไม่ดีเท่าไร แต่การกลับมา Haunted Mansion ในครั้งนี้
ยังคงเอกลักษณ์ในความหลอนเฮี้ยนสุดหลอน หมวกทรงสูงถือว่าเป็นจุดเด่นของคฤหาสน์ที่มาส่งความเฮี้ยนให้ท่านได้ดู รับรองได้เลยว่าผีในคฤหาสน์ที่ว่าเฮี้ยนแล้ว
ยังมาพร้อมกับเรื่องราวตลก แต่ความโหดที่ตาหลอกจนอยู่ไม่ได้เลยทีเดียว เพียงแค่เปิดภาพยนตร์ตัวอย่างออกมา ก็เป็นที่น่าสนใจอย่างมาก กรกฎาคมนี้พลาดไม่ได้อย่างแน่นอน
แนะนำหนังใหม่
ถ้าจะพูดกันแบบตรง ๆ ก็คือ ดูเหมือนว่าปีที่ 100 ของบ้านมิกกี้เมาส์จะเป็นปีที่แผ่วกำลังไม่น้อยครับ โดยเฉพาะหนังและซีรีส์ส่วนใหญ่ ที่เห็นกันชัด ๆ เลยว่าทำรายได้บน Box Office และคำวิจารณ์ได้ไม่ค่อยสวยงามเท่าไหร่นัก ขนาด ‘The Little Mermaid’
ที่เป็นไวรัลเพราะเป็นกระแสถกเถียงเรื่องความ Woke มาตั้งหลายปีก็ยังทำรายได้ไม่เข้าเป้า พอมาถึงเรื่องนี้ Disney ก็ดันมาปล่อยหนังในช่วงซัมเมอร์ที่มีหนังบล็อกบัสเตอร์ฟอร์มยักษ์เข้าฉายแบบจ่อ ๆ หลายเรื่อง แม้หนังเรื่องนี้จะไม่ได้มีความ Woke อะไร
(เพราะเวอร์ชันแรกก็เป็นเรื่องราวของครอบครัวคนดำ หรือไม่เวอร์ชันนี้ก็ซ่อนความ Woke ไว้เนียนมากแบบจับไม่ได้) แต่ด้วยคุณภาพหนัง ก็ชวนให้แอบเป็นห่วงชะตากรรมของหนังเรื่องนี้ และหนังเรื่องต่อ ๆ ไปของ Disney ไม่ได้จริง ๆ
หนังเรื่องนี้ใช้ทุนราว ๆ 157 ล้านเหรียญ ถือว่าฟอร์มกลางค่อนไปทางใหญ่นะครับ แต่ด้วยกระแส ด้วยตัวหนังเองที่ยังไม่ค่อยพีก ด้วยงานหนังที่ยังไม่ค่อยเนี้ยบ และด้วยอะไรต่าง ๆ ก็ชวนให้ผู้เขียนมีความหวั่นใจไม่น้อยว่ามันอาจจะคืนทุนได้ยากจริง ๆ แต่ถึงอย่างไร
ผู้เขียนก็ยังอยากแนะนำให้ไปดูหนังเรื่องนี้กันนะครับ เป็นหนังเบาสมองที่แม้จะสูตรสำเร็จสไตล์ Disney ไปหน่อย แต่ก็ยังให้ความบันเทิงได้แบบฮา ๆ เพลิน ๆ มีตุ้งแช่ แต่ดูได้ทั้งครอบครัว แต่ก็อีกนั่นแหละ หนังเรื่องนี้ก็ยังอยู่ในข่ายที่ถ้ามีโอกาสดูในโรงได้ก็จะดี
เป็นหนังที่ไม่ได้แย่เลย เพียงแต่ว่ามันอาจจะเป็นหนังดิสนี้ย์ดิสนีย์อีกเรื่องที่ไม่ได้มีอะไรแตกต่างจากเรื่องอื่น ไม่ได้มีเสน่ห์จูงใจให้รู้สึกอยากออกไปดูซ้ำ หรือต่อให้ดูในโรงไม่ได้ รอดูทีเดียวตอนลงใน Disney+ ก็ยังไม่ถึอว่าเป็นเรื่องเสียหายนัก
ติดตามรีวิวหนังเพิ่มเติมได้ที่ : รีวิวหนังแนะนำ
รีวิวหนังใหม่เพิ่มเติมได้ที่ : รีวิวหนัง Meg 2 The Trench เม็ก 2 อภิมหาโคตรหลามร่องนรก
เว็บดูหนังออนไลน์ฟรี : ดูหนังVip